งูลายสอ คือ งูไม่มีพิษที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยชื่อของมันมาจากลักษณะลวดลายสีเข้มเป็นเส้นยาวบนลำตัวคล้ายลายเส้นจากดินสอหรือปากกา จึงได้ชื่อว่า “ลายสอ” ซึ่งชื่อภาษาอังกฤษคือ Painted Keelback หรือ Yellow-Spotted Keelback โดยงูชนิดนี้จัดอยู่ในสกุล Xenochrophis หรือ Fowlea ซึ่งพบมากตามแหล่งน้ำ เช่น คลอง หนอง บึง ท้องนา หรือบริเวณสวนที่มีความชื้น งูชนิดนี้ไม่ดุร้าย ไม่เข้าหาคน และมักหนีเมื่อเจอมนุษย์ เป็นงูที่มีประโยชน์ต่อธรรมชาติแต่กลับถูกเข้าใจผิดบ่อยครั้งว่าเป็นงูพิษ เพราะรูปลักษณ์คล้ายงูมีพิษบางชนิด
ลักษณะและพฤติกรรมของงูลายสอ
งูลายสอมีลำตัวยาวเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร สีของลำตัวมีตั้งแต่เขียวมะกอก น้ำตาลไปจนถึงดำ และมีลายเส้นสีเข้มพาดยาวตลอดลำตัว ซึ่งบางครั้งอาจมีจุดหรือแต้มสีเหลืองปรากฏอยู่ ลักษณะของหัวแบนเล็กน้อยและค่อนข้างกลม ไม่เหมือนหัวสามเหลี่ยมของงูมีพิษ พฤติกรรมของงูชนิดนี้คือเป็นงูน้ำที่ว่ายน้ำเก่ง ออกหากินในช่วงเช้าหรือเย็น และกินสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลาหรือกบเป็นอาหารหลัก มักหลบซ่อนตัวตามพงหญ้า โขดหิน หรือโพรงดินริมแหล่งน้ำ และไม่ก้าวร้าวหากไม่ถูกรบกวน
งูลายสอมีพิษหรือไม่?
งูลายสอไม่มีพิษ และไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์แม้แต่น้อย คนจำนวนมากมักกลัวเพราะรูปลักษณ์คล้ายงูเห่าหรืองูพิษอื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้วงูชนิดนี้ไม่มีเขี้ยวพิษ ไม่มีต่อมพิษ และไม่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ การกัดของงูลายสอหากเกิดขึ้นก็เป็นเพียงแผลตื้นและไม่ส่งผลใด ๆ ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อพบงูชนิดนี้ควรปล่อยให้มันกลับเข้าสู่ธรรมชาติ ไม่ควรทำร้ายหรือฆ่าเพราะนอกจากจะไม่เป็นพิษแล้ว ยังเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์อีกด้วย
งูลายสอสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่พบในไทย
ในประเทศไทยสามารถพบงูลายสอได้หลายสายพันธุ์ เช่น งูลายสอบ้าน (Xenochrophis piscator) ที่พบทั่วไปในพื้นที่ชุ่มน้ำ, งูลายสอสวน (Fowlea flavipunctatus) ซึ่งมักพบในสวนหรือพื้นที่ชื้นในเมือง, และงูลายสอจุดขาว (Xenochrophis punctulatus) ที่มีจุดสีขาวตามลำตัวเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงสายพันธุ์ที่หายากอย่าง งูลายสอสองสี (Opistotropis spenceri) ที่นักวิจัยเพิ่งค้นพบอีกครั้งหลังจากหายไปจากการพบเจอนานเกือบร้อยปี การแยกแยะสายพันธุ์เหล่านี้ต้องใช้ความรู้เฉพาะด้าน แต่ทุกสายพันธุ์ล้วนไม่มีพิษและไม่เป็นอันตราย
ถิ่นที่อยู่อาศัยของงูลายสอ
งูลายสออาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ริมคลอง หนองบึง ทุ่งนา ป่าชื้น และสวนหลังบ้านที่มีความชื้นสูง มักพบมากในฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่มีแหล่งน้ำสมบูรณ์และอาหารอุดมสมบูรณ์ งูชนิดนี้ชอบพื้นที่ที่มีพืชพรรณหนาแน่นหรือมีที่หลบซ่อน เช่น กอหญ้า โขดหิน และดินชื้น งูลายสอสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ทั้งในเขตเมืองและชนบท และถือเป็นงูที่ปรับตัวเก่งกับสิ่งแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ
บทบาทของงูลายสอในธรรมชาติ
งูลายสอมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ โดยเป็นผู้ล่าธรรมชาติของสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลา กบ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งช่วยควบคุมประชากรสัตว์เหล่านี้ไม่ให้มากเกินไป นอกจากนี้ งูลายสอยังตกเป็นเหยื่อของสัตว์นักล่าอื่น เช่น นก เหยี่ยว หรือสัตว์กินงู ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารอย่างสมดุล การคงอยู่ของงูลายสอจึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงระบบนิเวศที่ยังสมบูรณ์ หากงูชนิดนี้หายไปอาจส่งผลต่อความสมดุลของสัตว์ในระบบนิเวศโดยรวม มหาลัยวัวชน เนื้อเพลง
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับงูลายสอ
หลายคนสงสัยว่างูลายสอสามารถเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถเลี้ยงได้ในทางกฎหมายหากไม่ใช่งูสงวน แต่การเลี้ยงงูควรมีความรู้เพียงพอและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อีกคำถามที่พบเสมอคือ “งูลายสอกัดหรือไม่?” จริง ๆ แล้วงูชนิดนี้ไม่ดุ ไม่กัดคนถ้าไม่ไปจับหรือคุกคามมันโดยตรง หากพบในบ้านควรใช้ไม้ไล่หรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ไม่ควรฆ่าเพราะมันไม่มีพิษและมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมอย่างมาก