ปฏิทิน 2567 ข้างขึ้น ข้างแรม คือ ปฏิทินแบบจันทรคติที่ใช้ดวงจันทร์เป็นหลักในการนับวัน โดยแบ่งวันในแต่ละเดือนออกเป็น 2 ช่วง คือข้างขึ้น (ช่วงที่พระจันทร์ค่อยๆ สว่างขึ้น) และข้างแรม (ช่วงที่พระจันทร์เริ่มมืดลง) ซึ่งมีตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ ถึงแรม 14 หรือ 15 ค่ำ ขึ้นอยู่กับจำนวนวันในเดือนนั้นๆ การดูปฏิทินข้างขึ้นข้างแรมในปี 2567 เป็นสิ่งที่ยังคงสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะเรื่องการทำบุญ กำหนดวันพระ ดูฤกษ์ยามมงคล หรือการจัดงานต่างๆ เพราะวัฒนธรรมไทยยังยึดถือแนวทางจันทรคติควบคู่กับสุริยคติมายาวนาน แม้ในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ก็ยังเห็นหลายบ้านติดปฏิทินที่มีข้างขึ้นข้างแรมเพื่อใช้อ้างอิงในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ
ตารางข้างขึ้น ข้างแรม ปี 2567
ในปี 2567 นี้ ประเทศไทยยังคงใช้ปฏิทินแบบไทยที่แสดงวันข้างขึ้นและข้างแรมควบคู่ไปกับวันที่ตามสุริยคติ โดยแต่ละเดือนจะมีทั้งวันขึ้นและวันแรม ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถดูวันพระ หรือวางแผนวันทำบุญได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ขึ้น 15 ค่ำ คือวันพระใหญ่ ส่วนแรม 8 ค่ำ หรือ แรม 15 ค่ำ มักเป็นวันพระประจำเดือน สำหรับปี 2567 นี้ไม่มีเดือนแปดสองหน ดังนั้นจึงมี 12 เดือนตามปกติ และมีวันพระ 4 ครั้งต่อเดือนตลอดปี โดยสามารถดูตารางแบบรายเดือนจากเว็บไซต์ทางการหรือแอปปฏิทินพระได้อย่างสะดวก
วันพระและวันสำคัญทางศาสนาในปี 2567
วันพระในปฏิทิน 2567 ข้างขึ้น ข้างแรม ถือเป็นวันสำคัญสำหรับชาวพุทธ โดยจะตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ, ขึ้น 15 ค่ำ, แรม 8 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ ของทุกเดือน ซึ่งในปีนี้ยังคงมีวันพระใหญ่ตามประเพณีไทย เช่น วันมาฆบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3), วิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6), อาสาฬหบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8), เข้าพรรษา (แรม 1 ค่ำ เดือน 8) และออกพรรษา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) โดยวันเหล่านี้คนไทยนิยมไปวัด ทำบุญ ถือศีล และเว้นจากอบายมุข เพื่อส่งเสริมจิตใจให้สงบสุข ซึ่งถือเป็นวิถีของคนไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน
ความเชื่อเกี่ยวกับข้างขึ้น ข้างแรมในพิธีมงคล
คนไทยมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า วันข้างขึ้นมักเหมาะกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น แต่งงาน เปิดร้าน จัดพิธีมงคลต่างๆ เพราะพระจันทร์ที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเปรียบเหมือนชีวิตที่กำลังเติบโต ส่วนวันข้างแรมโดยเฉพาะแรม 14 ค่ำ หรือแรม 15 ค่ำ มักไม่เป็นที่นิยมสำหรับการทำพิธี เนื่องจากเชื่อว่าเป็นช่วงพลังของพระจันทร์ลดลงและอาจส่งผลไม่ดี การเลือกวันตามปฏิทิน 2567 ข้างขึ้น ข้างแรมจึงเป็นสิ่งที่หลายครอบครัวยังให้ความสำคัญและอ้างอิงประกอบการตัดสินใจเสมอ โดยเฉพาะการจัดงานบวช งานแต่ง หรือขึ้นบ้านใหม่
การใช้งานปฏิทินข้างขึ้น ข้างแรมในชีวิตประจำวัน
แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปมาก แต่การใช้งานปฏิทินข้างขึ้น ข้างแรมก็ยังจำเป็นในชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่คุ้นเคยกับการดูวันแบบนี้ เพื่อดูวันพระ ทำบุญ หรือหลีกเลี่ยงวันไม่เป็นมงคล สำหรับคนรุ่นใหม่ก็สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หรือเว็บปฏิทินไทยที่มีระบบเตือนวันพระและแสดงค่ำอย่างชัดเจน เช่น แอป “ปฏิทินวันพระ”, “ดูจันทร์”, หรือเว็บไซต์ของกรมการศาสนา ซึ่งช่วยให้เข้าถึงปฏิทินข้างขึ้นข้างแรมได้ง่ายขึ้นทุกที่ทุกเวลา
คำศัพท์เกี่ยวกับข้างขึ้น ข้างแรมที่ควรรู้
ในการอ่านปฏิทิน 2567 ข้างขึ้น ข้างแรม บางคำศัพท์อาจยังไม่คุ้นสำหรับหลายคน เช่น “ดิถี” หมายถึงวันหรือช่วงเวลา, “อธิกมาส” คือปีที่มีเดือนเพิ่ม (ปี 2567 ไม่ใช่ปีอธิกมาส), “เดือนอ้าย” คือเดือนแรกตามจันทรคติไทย และ “เดือนสิบสอง” คือเดือนสุดท้าย โดยคำว่า “ขึ้น” และ “แรม” จะใช้เรียกลำดับวันตามการเปลี่ยนแปลงของพระจันทร์ซึ่งมีผลทั้งในแง่ของธรรมชาติ ความเชื่อ และการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยที่ผูกพันกับจันทรคติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื้อเพลงโดย ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ เก็บรัก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปฏิทิน 2567 ข้างขึ้น ข้างแรม
คนมักมีคำถามว่า “ข้างขึ้นกับข้างแรมต่างกันอย่างไร?” คำตอบคือ ข้างขึ้นคือช่วงที่พระจันทร์ค่อยๆ เต็มดวง และข้างแรมคือช่วงที่ค่อยๆ มืดลง อีกคำถามหนึ่งคือ “ทำไมต้องดูวันพระ?” เพราะถือเป็นวันส่งเสริมคุณธรรมทางพระพุทธศาสนา และวันพระใหญ่บางวันก็ตรงกับเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ ยังมีคำถามว่า “จะดูว่าวันนี้เป็นกี่ค่ำได้จากที่ไหน?” ปัจจุบันสามารถดูได้จากเว็บไซต์ เช่น ปฏิทินไทย, ไทยรัฐ, หรือใช้แอปพลิเคชันฟรีบนมือถือที่อัปเดตวันพระและค่ำทุกวัน